“แอน จักรพงษ์” โพสต์เดือดจัด ใบ้ปัญหาคนชื่อ น. อยู่จังหวัด น. ลั่นมิได้มาทวงบุญคุณ แต่ว่ามาทวงบ้านคืน เนื่องจากคุณไม่รู้เรื่องคำว่า กตัญญูรู้คุณ
ภายหลังที่เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.64) แอน จักรพงษ์ ได้ออกมาโพสต์เนื้อความ ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ฟาดถึง นายเพชรปลอม “เงียบเพชฌฆาตแต่ว่าถึงเวลาฟาดต้อง “ฟาดไฟลุก” ไม่ให้เหลือซากสักชิ้นเดียว ทำเอาผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น
โดยได้กำหนดแคปชั่นว่า “เงียบมาสามอาทิตย์เนื่องจากผู้ใหญ่คนสนิทสนมบอก “ยังไม่ถึงเวลา” ท่านบอกแอน “ให้ล่อทุกคนออกจากถ้ำทั้งหมด แล้วเก็บรวบรวมข้อมูล…จะได้ทราบว่าผู้ใดกันเป็นผู้ใดกัน ” ส่งฟ้องทีเดียว ส่งประหารทีเดียว ขอบพระคุณแฟนคลับแล้วก็ผู้หวังดีล้นหลามที่เมตตาส่งข้อมูลข้างหน้าแล้วก็เบื้องหน้าเบื้องหลังของ นายเพชรปลอม พร้อมลูกน้องจอมสะเหล่อที่อยากได้ซีนข่าวสารเนื่องจากทำอะไรก็เจ๊งไปหมด ก็เลยอยากเกาะกระแสให้คนมาตามโซเชียลมีเดียของตน เพื่อขายของ ขายของกินต่อ ทุกเอกสาร ทุกข้อมูล ทุกความลึกล้ำ ที่ส่งเข้ามาให้กลุ่มทนายความปลาฉลามดุของแอน ล้วนแล้วมีคุณประโยชน์ในการฟ้องกลับเรียกค่าเสียหายเป็นเลข 8-9 หลักต่อคน จะได้เอาทุกบาทไปทำบุญสุนทาน ! พวกเราไม่ควรปลดปล่อยให้มนุษย์ปากว่าตาขยิบเหล่านี้…ลืมตาอ้าปากในสังคมค่ะ ขอบพระคุณทุกคนสุดที่รักแอนเสมอค่ะ ถึงเวลาฟาดคือต้องฟาดค่ะ!!! #ข้ามเพศพันล้าน #แอนจักรพงษ์ #ลูกแม่แอนจักรพงษ์ #annejakrajutatip”
ปัจจุบันวันนี้ (3 มี.ค.64) แอน จักรพงษ์ ออกมาเคลื่อนไหวอีกที โอกาสนี้บอกใบ้ตัวหนังสือปัญหา น. อยู่จังหวัด น. มีนิสัย น.คืออกตัญญู อีกทั้งยังพูดยาวถึงความประพฤติบุคคลดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว มิได้มาทวงบุญคุณนะแต่ว่ามาทวงบ้านคืน!!! เนื่องจากคุณไม่รู้เรื่อง ความหมายของคำว่า กตัญญูรู้คุณ
คุณเกือบล้มละลายเนื่องจากไปกู้หนี้ยืมสินธนาคารมาทำธุรกิจแล้วเจ๊งหมดรูปเมื่อห้าปีที่แล้ว…ฉันก็เอาเงินไปจ่ายปลดหนี้สินให้คุณทั้งหมดหลายล้าน…บ้านที่พี่ชายคุณอยู่ปัจจุบันนี้กับครอบครัวก็เป็นของฉันทั้งหมด เป็นชื่อของฉันแล้วก็ฉันเป็นเจ้าของ….ฉันบ่มให้คุณมาดำเนินงานกับบริษัทมหาชนของฉันโดยมีเงินเดือนเป็น 6 หลัก แล้วก็ให้เกียรติมีตำแหน่งฐานะเป็นในหนึ่งผู้ตัดสิน….ฉันมอบโอกาสคุณด้วยความเมตตาทั้งๆที่ก็รู้ว่าตัวคุณกับแฟนก็มีนอกมีในกับบริษัทเสมอมา….คุณมิได้โปล่งใสหัวใจสะอาด กระทั่งพนักงานที่คุณคุมอยู่ก็ลาออกเกือบหมดเนื่องจากทนความประพฤติปฏิบัติของคุณไม่ไหวกับความไม่มีภาวการณ์เป็นผู้นำจริง จำนวนมากใช้เวลากับการหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตน ก็เลยเป็นสาเหตุของการลาจาก… ถ้าคุณดีบริษัทก็ต้องเก็บคุณไว้!!! ข้อตกลงการทำงานก็มีอยู่แล้วว่าถ้าผู้ถูกว่าจ้างไม่สามารถทำงานได้ก็ต้องถูกล้มเลิกตำแหน่งกันไป มิเช่นนั้นปีกว่าๆก่อนหน้านี้ คุณก็ต้องมาโวยวายเรียกร้องหรือไปฟ้องร้องคดีสุดแท้แต่เนื่องจากคุณรู้ว่ากฎเกณฑ์ย่อมเป็นกฎเกณฑ์ตามนั้น บริษัทต้องไล่คุณออกเนื่องจากคุณสมบัติของคุณพลาดเอง… ฉะนั้นคุณก็เลยต้องหันเหไปทำร้านอาหารที่บ้านเกิดแต่ว่าเนื่องจากมันเจ๊ง (เพียงพอเริ่มทำเอง เป็นเจ้าของธุรกิจเอง ถึงรู้ว่ามันไม่ง่ายราวกับตอนกินเงินเดือน!)
ความแค้นคุณก็เลยสะสมอันเกิดมาจากความเครียดที่ไม่มีเงิน เพียงพอเวลานายจ้างเก่าเริ่มถูกสังคมวิจารณ์ คุณก็เลยใช้จังหวะ ‘ได้ทีขี่แพะไล่’ แม้ว่า นายเพชรปลอม เมื่อก่อน คุณก็ดุเค้าให้ฉันฟังแบบไม่มีชิ้นดี!…วันนี้ก็ไปช่วยเป็นลูกน้องเขาเนื่องจากความเจ็บแค้นที่คุณไม่มีเงิน…เนื่องจากความเจ็บที่คุณเจ๊งหมดรูปแล้วก็อยากได้กระแสสังคมให้มาสนใจคุณกับโซเชียลมีเดียของคุณที่หายตายจากไปนานแล้ว เกมแบบงี้ผู้ใดกันก็อ่านออก..ผู้ใดกันก็เล่นเป็น…กลุ่มทนายความฉันเพิ่งจะส่งจดหมายตระเตรียมสั่งฟ้องคุณเป็นเงินแปดหลัก พร้อมยึดบ้านคืนเนื่องจากความประพฤติของคุณคือ ‘กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา’…. มีแต่ว่าคนเตือนฉันเสมอว่า คุณเคยเข้าเรือนจำมาแล้ว ไว้วางใจคุณมิได้เนื่องจากคุณมันคือนางงามสิบแปดมงกุฎ
ฉันพึ่งจะตาสว่างแล้วก็เห็นว่าทุกคนที่เคยเตือนล้วนเกิดเรื่องจริงแต่เลวยิ่งกว่า…คำว่า’อกตัญญู’ มันยังน้อยไปสำหรับคุณ ปล. มิได้มาทวงบุญคุณนะแต่ว่ามาทวงบ้านคืน!!! เนื่องจากคุณไม่รู้เรื่อง ความหมายของคำว่า กตัญญูรู้คุณ (อุปนิสัยราวกับนายเพชรปลอมที่ทุกรายการโทรทัศน์ ทุกบริษัทที่ทำล้วนเจ๊งหมด!!!) เพราะทัศนคติที่ว่า ‘ดำเนินงานต่างคนต่างส่งผลทดแทน’ ประโยคแบบงี้ใครๆก็อึ้ง!!!มีแต่ว่าเฉพาะคนที่มีวิสัยทัศน์สั้นเพียงแค่นั้นที่เขาคิดกัน!!!! …ก็เลยไม่มีใครคบพวกท่านแล้วก็เค้าจะแช่งชักหักกระดูกกันทั้งแผ่นดิน!!! ไปสู่ที่ถูกใจที่ถูกใจเถอะแล้วก็คืนบ้านฉันมา!! ถ้าคำว่าระลึกไม่มี…ฉันก็ไม่มีน้ำใจให้ด้วยเหมือนกัน …ฉันไม่เป็นผลทดแทนอะไรจากการที่คุณอยู่บ้านฉัน….วันนี้ฉันเลยขอบ้านคืน!!!